วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

สัมผัสหมอกบาง ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขา ดอกไม้เมืองหนาว พร่างพราวทั่วเชียงราย

อากาศยามเช้าที่จังหวัดเชียงรายหนาวเย็นไม่ใช่เล่น ฉันพึ่งรู้ก็ตอนที่ได้พักผ่อนจากการเรียนอย่างเคร่งเครียดช่วงปลายปี ตอนที่จะออกเดินทางเพื่อค้นหาประสบการใหม่ๆในบ้านเกิดของตนเอง จังหวัดเชียงราย ไปพร้อมกับกล้องถ่ายรูปคู่ใจ




เทศกาลเชียงรายดอกไม้บาน


ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็น และแสงแดดอ่อนๆยามเช้า ณ ลานริมน้ำกก ดอกไม้นานาๆชนิดได้พร้อมใจกันบ้านสะพรั่งเพื่อตอนรับนักท่องเที่ยวที่มากจากทั่วสารทิศ ไฮไลท์ของงานก็คงหนีไม่พ้น ดอกไม้เมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรป และเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศฮอลแลนด์อย่างทิวลิป และขาดไม่ได้เลยนั่นก็

คือ Queen Of Night ทิวลิปดำ ซึ่งหาชมได้ยากมาก ภายในงาน มีดอกไม้นาๆชนิด หลากสีสัน อีกทั้งข่วงวัฒนธรรม ของพี่น้องชนเผ่าต่างๆ
เทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ที่จอดรถสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเงินค่าจอด แต่ต้องเดินเข้าไปในงาน แต่ถ้าหากไม่อยากเดิน ก็นั่งสามล้อ ซึ่งมีคุณลุงใจดีคอยบริการอยู่ในราคาไม่แพงมาก เพียงคนละยี่สิบบาท ไม่ต้องเสียเงินเข้าชมงาน แต่ถ้าหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือชมทัศนียภาพริมสองฝั่งแม่น้ำกก ก็ยอมเสียเงินซักนิดก็จะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ งานนี้ ผู้ที่ชอบดอกไม้และรักในการถ่ายรูปไม่ควรพลาดเลยจริงๆ งานมีตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม-4 มกราคม 2553 ถ้าพลาดปีนี้ ต้องรอไปอีกหนึ่งปีเลยทีเดียว







สวรรค์จำลอง วัดร่องขุ่น
เที่ยงกว่าๆ ฉันเดินทางมาเที่ยวชมสวรรค์จำลองของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่ได้บรรจงออกแบบและสร้างลวดลายศิลปะปูนปั้น ณ วัดสีขาวบริสุทธิ์แห่งนี้ วัดร่องขุ่น เมื่อใครได้เข้ามาเที่ยวชม ก็คงรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์ สองข้างทางเดินที่จะขึ้นไปสู่สวรรค์จำลองนั้น ก็คือนรกจำลอง หากใครเดินขึ้นไปแล้ว อย่าได้เผลอเดินย้อนกลับเป็นอันขาด เพราะถือว่าคุณกำลังจะเดินไปลงนรก บรรยากาศรอบๆวัดก็สวยอย่าบอกใครๆ และหาไม่ได้จากที่ไหน ก็คงจะเป็นสุขาสีทองอร่ามตา ซึ่งทำเอาเราไม่กล้าปลดทุกข์กันเลยทีเดียว












แสงแรกแห่งวัน ท่ามกลางทะเลหมอก และขุนเขา
ตีสี่กว่าๆ กับแผนที่หนึ่งใบ และคนข้างกาย^^ ใจกลางอำเภอเมืองเทิง ฉันได้เดินทางมุ่งหน้าไปภูชี้ฟ้า สถานที่ชมทะเลหมอกของจังหวัดเชียงราย พอถึงทางขึ้น ต้องขึ้นรถรับจ้างขึ้นไปในราคาคนละยี่สิบบาท ผ่านเส้นทางที่สูงชัน จนไปถึงด้านบนที่จอดรถ แต่ไม่ง่ายขนาดนั้น ต้องเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวอีก 800 เมตร เสื้อกันหนาว 2 ผืน ผ้าพันคอ หมวก ขาตั้งกล้อง คือสิ่งที่ฉันเตรียมขึ้นไป กับน้ำอีกหนึ่งขวด เส้นทางแสนขรุขระ และแสนเหนื่อย จนฉันรู้สึกร้อน สองข้างทางเดินก็มีเด็กชาวเขาที่ตื่นแต่เช้ามาแสดงความสามารถเพื่อหารายได้ และประโยคหนึ่งที่เด็กชาวเขาหลายๆคนท่องเหมือนๆกันก็คือ”ถ่ายรูปกับเด็กชาวเขามั้ยคะ แล้วแต่น้ำใจจะให้ค่ะ”
พอขึ้นไปได้ไม่ไกลนัก ก็เริ่มสัมผัสถึงธรรมชาติอันงดงามแต่จะมัวช้าไม่ได้ ต้องเร่งฝีเท้าเพราะอาจพลาดการชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอก ไม่ได้มีฉันคนเดียวหรอกที่กำลังมุ่งมั่นที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอก ผู้คนประมานสามถึงสี่ร้อยคน ทยอยกันมาเรื่อยๆ ด้านบน มีจุดชมวิวหลายที่ และฉันก็เลือกที่ๆอยู่ด้านบนสุด เพราะจะได้มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอย่างชัดเจน ปุยหมอกสีขาวมากมายดั่งทะเลทำให้ฉันหายเหนื่อยจากการเดินทาง และไม่นานนักแสงแรกของวันก็เริ่มสาดส่องขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด อย่างสวยงาม เสียงชัตเตอร์ลั่นไม่หยุดจากกล้องที่มีอยู่ในมือเกือบทุกคน ครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นทะเลหมอก และแสงสีทองที่สาดส่องให้ผู้ที่รอคอยได้ชื่นหัวใจ และไม่ผิดหวังที่บากบั่นขึ้นมารอชม







ชิมชา ซากุระบาน อาหารชนเผ่า ที่ดอยแม่สลอง
บนเส้นทางที่คดเคี้ยวแต่ไม่ถึงขนาดปาย แต่สวยงามไม่แพ้ปาย สองข้างทางที่ได้เดินทางเข้าสู้เส้นทางไปดอยแม่สลองแห่งนี้ มีแต่ขุนเขาที่สลับซับซ้อนที่เรียงตัวกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่สวยงามจนสุดจะบรรยาย ใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก ก็เริ่มเห็นไร่ชา ที่เป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ และเดินทางผ่านไร่ชา101 ไร่ชาชื่อดัง จากประวัติเล่าว่าผู้ที่ริเริ่มปลูกชา ก็คือ นายพลต้วน
ไม่น่าเชื่อว่าดอยแม่สลองแห่งนี้ จะเป็นสถานที่ๆสวยงามอย่างที่ฉันและอีกหลายๆคนคาดไม่ถึง ดอกซากุระบานสะพรั่งสองข้างทางเหมือนได้ไปญี่ปุ่น ชิมชาอู่หลงที่หอมกรุ่นและมีคุณค่าจากไร่ชาต่างๆ เช่น ไร่ชา 101 ไร่ชาวังพุธตาล ที่มีสิงโตเงินสิงโตทองและกาชงชาเงินกาชงชาทองขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง
มาช่วงหน้าหนาวทั้งที คงจะพลาดไม่ได้ที่จะนอนเต้นท์ และที่นี่ก็มีสถานที่ให้กางเต้นมากมาย และก็เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวมากๆด้วย เนื่องจากรีสอร์ทและโรงแรมต่างก็เต็มหมด
นักท่องเที่ยวต่างพากันมาสัมผัสบรรยากาศหนาว ถึงหนาวมากๆ ณ ที่แห่งนี้ และร่วมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันที่นี่ โดยมีการจุดพลุดอกไม้ไฟ และปล่อยโคมลอย ซึ่งปล่อยไปตามแรงลม และแสงเล็กๆจากโคมลอย ท่ามกลางความมืดอันกว้างใหญ่ของท้องฟ้า ก็ทำให้ฉันพบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ประทับใจไม่รู้ลืม บนดอยแม่สลองแห่งนี้

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2553 เวลา 20:40

    เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยตัวเองเลย...
    ชอบชอบ...
    เขียนบ่อยๆ นะครับ
    จะติดตามอ่าน

    ตอบลบ
  2. อยากให้หมูได้อ่านนะ^^ที่เราไปเที่ยวด้วยกันมา

    ***แล้วจะพยายามเขียนบ่อยๆนะ

    ตอบลบ
  3. เจอ แล้ว งับบบ

    สวย มากมายๆๆๆๆ เลยแหละ

    คนทำแม่งเก่งอ่ะ หุหุ

    ตอบลบ